ขึ้นตอนการตรวจสภาพแบตเตอรี่ภายใน MacBook, MacBook Air, MacBook Pro, MacBook Pro Retina ของคุณ

  • ขั้นตอนแรก  ให้กดปุ่ม option (ข้างๆ ปุ่ม cmd) ค้างไว้  แล้วใช้เม้าส์ไปคลิ๊กที่สัญลักษณ์ของรูปแบตเตอรี่ด้านบนเมนูบาร์ด้านบนขวามือของหน้าจอ  ดังภาพที่ 1 ด้านล่างนี้

ตรวจสถานะแบตของ MacBook, MacBook Air, MacBook Pro

 

  • จากขั้นตอนแรก  เราจะสามารถทราบถึงสถานะเบื้องต้นของแบตเตอร์รี่ในเครื่อง MacBook, MacBook Air, MacBook Pro, MacBook Pro Retina  เราว่า  สภาพของการใช้งานเป็นอย่างไร  สถานะจะแบ่งออกเป็น 4 แบบ  ตามนี้
  1. Normal  =  สามารถใช้งานได้ปกติ  มาตราฐาน
  2. Service Battery = แบตเตอร์รี่เริ่มเสื่อมคุณภาพ  เก็บไฟได้น้อยลง
  3. Replace Now = ต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ทันที  อาจเกิดผลเสียหายกับตัวเครื่องได้
  4. Consume = แนะนำว่าน่าจะต้องเปลี่ยนภายในอนาคตอันใกล้นี้

 

ด้านบนเป็นวิธีการตรวจสถานะแบตเตอร์รี่ในเครื่อง Mac ของคุณแบบเบื้องต้น  ทีนี้เราจะพาไปดูรายละเอียดมากขึ้น  ด้วยวิธีการที่ 2  ดังนี้

 

  • ใช้เม้าส์คลิ๊กไปที่เมนู Apple ด้านบนมุมซ้ายมือของเมนูบาร์  (ที่เป็นรูป apple logo) จากนั้นเลือกที่ About this Mac  ดังภาพที่ 2 ด้านล่างนี้

เมนู Apple (รูป apple logo)

 

  • จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างรายละเอียดของเครื่องดังภาพที่ 3 ด้านล่างนี้

รายละเอียดของ Mac เครื่องนี้

 

  • ให้คลิ๊กที่ปุ่ม More Info... ด้านล่าง  จะปรากฏหน้าต่าง  รายละเอียดเครื่องที่มากขึ้น (หากเป็น Mac OS X เวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า 10.8.5 อาจข้ามขั้นตอนที่ 2 มาที่ขั้นที่ 3 เลย)

รายละเอียดเครื่อง Mac ของคุณ

 

  • จากหน้าต่างนี้  ให้เราคลิ๊กที่ปุ่ม System Report...  จะปรากฏหน้าต่างดังภาพที่ 6 ด้านล่างนี้

หน้าต่าง System Infor ของเครื่อง Mac

โดยหน้าต่างของ System Infor นี้จะแสดงรายละเอียดทั้งหมดของเครื่อง Mac ของคุณ  โดยแบ่งออกเป้นหมวดหมู่ทางด้านซ้ายมือ  คือ Hardware, Network, Software  เราจะเช็คแบตเตอร์รี่  MacBook, MacBook Air, MacBook Pro, MacBook Pro Retina ให้เราเลือกที่หัวข้อย่อยของ Hardware - Power  ดังภาพด้านบน

 

แล้วเราจะดูอะไรกันล่ะ?

 

สิ่งที่เราต้องรู้มีสามสี่อย่างครับ  ดังภาพด้านล่างนี้

 

สิ่งที่ควรดูเรื่องของคุณภาพแบตเตอร์รี่ใน MacBook, MacBook Pro, MacBook Air

 

ส่ิงที่ผมไฮไลท์ไว้  คือ  Charge Information ประสิทธิภาพในการเก็บประจุไฟของตัวแบตเตอร์รี่  ว่าสามารถเก็บได้เท่าไร  (Full Charge Capacity (mAh) ) อันนี้เลขยิ่งมากยิ่งดี

 

ต่อมาคือ  Cycle Count : ตัวเลขนี้บอกถึงจำนวนรอบในการชาร์จไฟของตัวแบตเตอร์รี่ก้อนนี้  ส่วนการนับรอบการชาร์จนั้น  สามารถหาข้อมูลได้จากหน้าเว็บ Apple Support นะครับ  แต่ผมสรุปง่ายๆ ว่า  จาก 0-100 % จะนับ 2 Cycle ครับ  ดังนั้นคุณจะเลือกชาร์จแบบไหนก็ไม่ได้มีผลดีกว่าหรือเสียง่าย  เพราะคำถามคำตอบอันนี้มันเถึยงกันไม่จบ....

 

และสถานะแบตเตอร์รี่ก็จะแสดงในบรรทัดถัดมา คือ Condition ตามรายละเอียดด้านบนที่ผมอธิบายไปแล้วนะครับ

 

  

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ  ทีนี้คุณก็สามารถจะตรวจสอบสภาพของแบตเตอร์รี่ภายในเครื่อง Mac ของคุณได้ด้วยตัวเองกันแล้วนะครับ  ส่วนใครที่รู้สึกว่า  เครื่องของตัวเองเก็บไฟได้น้อยจัง  ชาร์จเต็ม  ใช้งานได้แป๊ปเดียวก็หมดไฟต้องชาร์จใหม่อีกและ  ก็ลองมาตรวจเช็คอย่างละเอียดใน System Infor กันก่อนนะครับ  ว่า Full Charge Capacity ได้เท่าไรครับ

 

ขอบคุณครับ

จะเด็ด  เพ็งคุ่ย 

www.ioverserve.com  รับซ่อม MacBook, รับซ่อม MacBook Pro,รับซ่อม iMac, รับซ่อม Mac mini, รับซ่อม MacBook Air, รับซื้อ MacBook, รับซื้อ MacBook Pro, รับซื้อ MacBook Air, รับซื้อ iMac

 

  อัตราค่าบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่

     Model      Year Price
     ราคาแบตเตอรี่  MacBook Pro 13 Unibody 2009-2012 2,590. 
     ราคาแบตเตอรี่  MacBook Pro 15 Unibody 2009-2012 3,590. 
     ราคาแบตเตอรี่  MacBook Air 11, 13 2011-2017 2,590. 
     ราคาแบตเตอรี่  MacBook Pro 13 Retina 2012-2015 4,480. 
     ราคาแบตเตอรี่  MacBook Pro 15 Retina 2012-2015 4,780. 
     ราคาแบตเตอรี่  MacBook Pro 13 Retina 2016-2020 4,780. 
     ราคาแบตเตอรี่  MacBook Pro 15 Retina 2016-2020 4,990. 
 

***ราคารวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

***แบตเตอรี่รับประกันโดยบริษัท ไอโอเวอร์ เซิร์ฟ จำกัด

เป็นเวลา 6 เดือน ตามเงื่อนไขการใช้งานปกติ

***แบตเตอรี่เป็นสินค้า OEM คุณภาพสมบูรณ์และสามารถเข้ากันได้กับ Mac ตามรุ่นที่ระบุไว้ตามมาตราฐาน

 

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ Mac: พอร์ตและขั้วต่อบน Mac

Mac ของคุณมีพอร์ตและขั้วต่อจำนวนหนึ่งเพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อจอแสดงผล ไดรฟ์ แป้นพิมพ์ เครือข่าย และอื่นๆ ได้ บทความนี้จะอธิบายถึงการเชื่อมต่อที่พบบ่อยที่สุด และจุดประสงค์ของการเชื่อมต่อ

 

การระบุพอร์ต

USB-C
โน้ตบุ๊ค Mac ของคุณอาจมาพร้อมกับพอร์ต USB-C ที่ด้านข้างของคอมพิวเตอร์
 

พอร์ต USB-C บนโน้ตบุ๊ก Mac ของคุณรองรับการชาร์จ การถ่ายโอนข้อมูล และโหมดอื่นๆ เช่น วิดีโอ DisplayPort เมื่อใช้ อะแดปเตอร์ USB-C คุณก็จะสามารถเชื่อมต่อจอภาพ HDMI และ VGA หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB มาตรฐานอื่นๆ ได้ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น iPhone, iPad และ iPod สำหรับการชาร์จและการซิงค์ รวมทั้งการต่อกับกล้อง ฮาร์ดไดรฟ์ และธัมป์ไดรฟ์สำหรับการถ่ายโอนข้อมูล

พอร์ต USB-C บนโน้ตบุ๊ก Mac ของคุณไม่รองรับอุปกรณ์ Thunderbolt หรือจอแสดงผล หากคุณใช้ไดรฟ์ Thunderbolt ให้ตรวจสอบดูว่ามีพอร์ต USB ที่คุณสามารถใช้เชื่อมต่อแทนได้หรือไม่

พอร์ตอื่นๆ
Mac ของคุณยังอาจมาพร้อมกับพอร์ตอื่นๆ จำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ที่ด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลังของคอมพิวเตอร์ หากคุณมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค Mac อาจมีลักษณะเช่นนี้

พอร์ตโน้ตบุ๊ค Mac

ถ้าคุณใช้เครื่องเดสท็อป Mac อย่างเช่น iMac อาจมีลักษณะเช่นนี้

พอร์ตเดสก์ท็อป Mac

พอร์ตเหล่านี้ใช้สำหรับทำอะไร

โดยปกติแล้ว พอร์ตบน Mac ของคุณจะมีสัญลักษณ์ที่อธิบายว่าพอร์ตนั้นใช้ทำอะไร

  • พอร์ตจ่ายไฟ: บนโน้ตบุ๊ค Mac นี่คือพอร์ตที่คุณใช้ต่อสายไฟ
  • พอร์ต USB: แป้นพิมพ์หรือเมาส์ภายนอกแบบใช้สายจะต่อกับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่นเดียวกับเครื่องพิมพ์และแฟลชไดรฟ์ USB จำนวนมาก แป้นพิมพ์ไร้สาย แทร็คแพด และเครื่องพิมพ์ไม่จำเป็นต้องใช้พอร์ต USB เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ใช้เทคโนโลยีบลูทูธไร้สายหรือ Wi-Fi เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ USB กับคอมพิวเตอร์ Mac ที่นี่
  • Thunderbolt: ต่อจอแสดงผล Thunderbolt หรือต่ออะแดปเตอร์ Mini DisplayPort เป็น DVI, VGA, HDMI หรือ DisplayPort  คุณยังสามารถเชื่อมต่ออะแดปเตอร์อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล, อุปกรณ์ถ่ายภาพวิดีโอ, FireWire และอะแดปเตอร์อีเธอร์เน็ตแบบกิกะบิตเข้ากับพอร์ต Thunderbolt ของ Mac ได้โดยตรงอีกด้วย 
  • พอร์ต HDMI: คุณสามารถใช้พอร์ตนี้และสาย HDMI เพื่อต่อกับพอร์ต HDMI ของ HDTV และใช้ TV เป็นจอแสดงผลภายนอก คุณยังสามารถใช้ Apple TV และ การสะท้อนภาพ AirPlay เพื่อเปิด HDTV ของคุณในจอแสดงผลภายนอกได้อีกด้วย
  • พอร์ตอีเธอร์เน็ต: ถ้าคุณต่ออินเทอร์เน็ตโดยไม่ใช้ Wi-Fi คุณอาจมีโมเด็มหรือเราเตอร์ต่อกับพอร์ตอีเธอร์เน็ตของคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่แล้ว ถ้า Mac ของคุณไม่มีพอร์ตอีเธอร์เน็ต แต่คุณจำเป็นต้องใช้พอร์ตนี้ คุณสามารถต่ออะแดปเตอร์อีเธอร์เน็ตโดยใช้ USB หรือ Thunderbolt ได้
  • พอร์ต FireWire: Mac บางรุ่นจะมาพร้อมกับพอร์ต FireWire 400 หรือ FireWire 800 สำหรับการต่ออุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างเช่น ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก ถ้าคุณต้องการต่ออุปกรณ์ FireWire แต่ Mac ของคุณไม่มีพอร์ต FireWire คุณอาจสามารถใช้ อะแดปเตอร์ FireWire เป็น Thunderbolt ได้
  •  สัญญาณเสียงออก: ต่อ Mac ของคุณเข้ากับระบบเครื่องเสียง หรือต่อหูฟังหรือลำโพงโดยใช้พอร์ตสัญญาณเสียงออก 
  • สัญญาณเสียงเข้า: คอมพิวเตอร์ Mac บางรุ่นจะมีไมโครโฟนในตัว หรือพอร์ตสัญญาณเสียงเข้า ( หรือ ) ถ้า Mac ของคุณไม่มีพอร์ตสัญญาณเสียงเข้า คุณสามารถใช้อะแดปเตอร์ อย่างเช่น อะแดปเตอร์ USB เป็นสัญญาณเสียง เพื่อต่อกับแหล่งเสียงภายนอกได้
  • คอมพิวเตอร์ Mac บางรุ่นจะมีช่องเสียบตัวอ่านการ์ด อย่างเช่น ช่องเสียบการ์ด SD หรือ SDXC ซึ่งทำให้ง่ายต่อการถ่ายโอนรูปภาพระหว่างคอมพิวเตอร์ของคุณ

 

การเพิ่มพอร์ต

Mac บางรุ่นจะมีพอร์ตในตัวมากกว่ารุ่นอื่นๆ ถ้าคุณต้องการต่ออุปกรณ์มากกว่าจำนวนพอร์ตที่มีบน Mac ของคุณ คุณสามารถเพิ่มอะแดปเตอร์หรือการ์ดได้

  • สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง USB, FIreWire หรือ Thunderbolt ควรใช้ฮับของผู้ผลิตรายอื่นเชื่อมต่อ อุปกรณ์บางชนิดจะมีฮับในตัวหรือพอร์ตเพิ่มเติมให้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต่อจอแสดงผลภายนอกกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ตรวจดูว่าจอแสดงผลมีฮับในตัวที่มีพอร์ตเพิ่มเติมให้หรือไม่
  • ถ้าคุณไม่เห็นพอร์ตที่คุณต้องการ หรือใส่สายไม่ได้ ให้ตรวจดูว่ามีอะแดปเตอร์ให้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น โน้ตบุ๊ค Mac รุ่นใหม่สามารถใช้ ตัวแปลง MagSafe เป็น MagSafe 2 เพื่อต่อกับอะแดปเตอร์แปลงไฟ MagSafe รุ่นเก่าได้ หากคุณต้องการต่อจอภาพ DVI หรือ VGA คุณอาจต้องใช้ อะแดปเตอร์วิดีโอ Mini DisplayPort อะแดปเตอร์ USB-Cยังมีประโยชน์ หากคอมพิวเตอร์ของคุณมีพอร์ต USB-C

มีตัวเลือกมากมายสำหรับการต่ออุปกรณ์ที่มี โปรดตรวจสอบตัวเลือกใน Apple Store หรือ ตัวแทนจำหน่ายของ Apple ในพื้นที่ ของคุณ

 

www.ioverserve.com  รับซ่อม MacBook, รับซ่อม MacBook Pro,รับซ่อม iMac, รับซ่อม Mac mini, รับซ่อม MacBook Air, รับซื้อ MacBook, รับซื้อ MacBook Pro, รับซื้อ MacBook Air, รับซื้อ iMac

หาก MacBook, MacBook Pro, iMac ที่ใช้ Mac OS X ของคุณมองไม่เห็นเครื่องพิมพ์หรือไม่มีซอฟต์แวร์

ขั้นตอนเหล่านี้อาจช่วยได้หากคุณพยายามจะสั่งพิมพ์จาก Mac ของคุณแต่เครื่องพิมพ์ไม่ปรากฏอยู่ในเมนูป๊อปอัพ เครื่องพิมพ์ หรือ Mac ของคุณแสดงข้อความว่าไม่มีซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องพิมพ์ของคุณ

  1. ก่อนอื่น ต้องแน่ใจว่าเครื่องพิมพ์ของคุณพร้อมที่จะพิมพ์ ตรวจดูกระดาษและวัสดุอื่น ๆ และแก้ไขไฟแจ้งเตือนข้อผิดพลาดหรือข้อความแสดงข้อผิดพลาด ตรวจดูเอกสารประกอบของเครื่องพิมพ์หรือติดต่อผู้ผลิต หากคุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับข้อผิดพลาด
    Mac ของคุณจะดาวน์โหลดซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องพิมพ์โดยอัตโนมัติ ดังนั้น จึงมักไม่จำเป็นที่จะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์จากผู้ผลิตเครื่องพิมพ์
  2. หากเครื่องพิมพ์ของคุณเชื่อมต่อกับพอร์ต USB ของ MacBook, MacBook Pro, iMac ที่ใช้ Mac OS X ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์
  3. ตรวจดูการอัปเดตเพื่อให้แน่ใจว่าMacBook, MacBook Pro, iMac ที่ใช้ Mac OS X ของคุณมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์
  4. หากเครื่องพิมพ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเครือข่าย Wi-FiหรือMacBook, MacBook Pro, iMac ที่ใช้ Mac OS X ให้เชื่อมต่อใหม่อีกครั้งตอนนี้
  5. เปิดรายการที่คุณต้องการพิมพ์ จากนั้นเลือก พิมพ์ จากเมนู ไฟล์ 
  6. เลือกเครื่องพิมพ์จากเมนูป๊อปอัพเครืื่องพิมพ์ ซึ่งจะแสดงรายการเครื่องพิมพ์ที่อยู่ใกล้ๆ คุณอาจต้องรอสักครู่เพื่อให้เครื่องพิมพ์ปรากฏในเมนู หากเครื่องพิมพ์ไม่ปรากฏ ให้เลือก เพิ่มเครื่องพิมพ์ จากเมนูเดียวกัน หน้าต่างใหม่จะเปิดขึ้น

หน้าต่าง เพิ่มเครื่องพิมพ์

ไอคอนในหน้าต่างนี้เสนอหลายวิธีในการเพิ่มเครื่องพิมพ์ ดังนี้

  • ค่าเริ่มต้น: เลือก ค่าเริ่มต้น เพื่อแสดงรายการเครื่องพิมพ์ที่อยู่ใกล้ๆ คุณสามารถใช้ช่องค้นหาที่ด้านบนของหน้าต่างเพื่อจำกัดการค้นหาให้แคบลง
  • IP: เลือก IP หากเครื่องพิมพ์ของคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายและคุณรู้ที่อยู่ IP ของเครื่องพิมพ์หรือชื่อโฮสต์ หากคุณไม่มีข้อมูลนี้ ให้สอบถามผู้ดูแลระบบเครือข่ายของคุณหรือตรวจสอบเอกสารประกอบของครื่องพิมพ์
  • Windows: เลือก Windows หากเครื่องพิมพ์ของคุณเชื่อมต่อกับ PC ด้วยการใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน หรือเชื่อมต่อกับเครือข่ายของคุณด้วยการใช้โปรโตคอล SMB/CIFS ของ Windows ขั้นแรก คุณอาจต้องตั้งค่า การใช้ไฟล์ร่วมกัน เพื่อเชื่อมต่อกับทรัพยากรเครือข่ายของ Windows

หากคุณยังไม่เห็นเครื่องพิมพ์หรือยังเพิ่มไม่สำเร็จ โปรดติดต่อขอรับการสนับสนุนจากผู้ผลิตเครื่องพิมพ์

หากคุณมีปัญหาด้านการพิมพ์อื่น ๆ

ขั้นตอนเหล่านี้อาจแก้ไขปัญหาด้านการพิมพ์ซึ่งไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน

  1. เปิดบานหน้าต่าง เครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ ใน การตั้งค่าระบบจากนั้น เลือกเครื่องพิมพ์ของคุณ แล้วคลิกปุ่มลบ (-) เพื่อเอาออกจากรายการ
  2. ทำตามขั้นตอนในข้อก่อนหน้านี้เพื่อเพิ่มเครื่องพิมพ์ของคุณ
  3. หากยังคงมีปัญหาอยู่ ตั้งค่าระบบการพิมพ์ใหม่จากนั้นทำตามขั้นตอนในข้อก่อนหน้านี้ อีกครั้ง

 

www.ioverserve.com  รับซ่อม MacBook, รับซ่อม MacBook Pro,รับซ่อม iMac, รับซ่อม Mac mini, รับซ่อม MacBook Air, รับซื้อ MacBook, รับซื้อ MacBook Pro, รับซื้อ MacBook Air, รับซื้อ iMac

AirPrint เป็นเทคโนโลยีของ Apple ที่ช่วยให้คุณสร้างงานพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งไดรเวอร์ใดๆ

 

AirPrint

AirPrint ทำให้การพิมพ์รูปภาพและเอกสารคุณภาพสูงจากเครื่อง Mac, iPhone, iPad หรือ iPod touch ของคุณเป็นเรื่องง่าย โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม AirPrint ถูกสร้างอยู่ในเครื่องพิมพ์หลายรุ่นซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด เช่น รุ่นที่อยู่ในบทความนี้ 

เมื่อต้องการใช้เครื่องพิมพ์ AirPrint กับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ ให้ตรวจสอบว่าเครื่องพิมพ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกับ อุปกรณ์ iOS หรือ Mac ของคุณหรือไม่ จากนั้น เลือกเครื่องพิมพ์ AirPrint จากแอพโปรดของคุณ และคุณก็พร้อมที่จะพิมพ์ได้แล้ว

ที่เครื่อง Mac คุณยังสามารถเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ AirPrint เข้ากับ พอร์ต USB หรือพอร์ตอีเธอร์เน็ต หากคุณไม่ต้องการพิมพ์แบบไร้สาย ตรวจสอบเอกสารที่มาพร้อมกับเครื่องพิมพ์ของคุณ เพื่อดูว่ามีหนึ่งในพอร์ตเหล่านี้รวมอยู่หรือไม่

คุณสมบัติ AirPrint ประกอบด้วยการตรวจพบที่ง่ายดาย การเลือกสื่อโดยอัตโนมัติ และตัวเลือกการตกแต่งภาพในระดับองค์กร ในสภาพแวดล้อมองค์กร สามารถกำหนดค่าบันทึก DNS ให้เปิดใช้งานเครื่องพิมพ์ AirPrint ของคุณเพื่อให้ปรากฏทั่วทั้งเครือข่ายอื่นๆ ได้ คุณยังสามารถใช้ โปรไฟล์การกำหนดค่า ใน iOS เพื่อตั้งค่าเครื่องพิมพ์ AirPrint

หากคุณไม่สามารถพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์ AirPrint ได้

ถ้าคุณพิมพ์ไม่ได้หรือเห็นข้อความว่า "ไม่พบเครื่องพิมพ์ AirPrint" โปรดตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

  • บน iPhone, iPad หรือ iPod touch ของคุณ ให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุดที่มีอยู่หรือไม่ และแอพที่คุณใช้พิมพ์อัพเดทหรือไม่ 
  • บน Mac ของคุณ ให้ใช้การอัพเดทซอฟต์แวร์ เพื่ออัพเดท OS X และแอพที่คุณซื้อจาก Mac App Store
  • ตรวจสอบกับผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ของคุณ เพื่อดูว่ามีการอัพเดทเฟิร์มแวร์ใดๆ หรือไม่ สำหรับรุ่นของเครื่องพิมพ์ของคุณ 
  • คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ AirPrint กับเครือข่ายของคุณ ผ่านอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย หรือเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณโดยตรง 
  • อุปกรณ์ AirPrint ที่เชื่อมต่อกับพอร์ต USB ของสถานีฐาน AirPort หรือ AirPort Time Capsule ของ Apple ไม่ได้ใช้ AirPrint หากเครื่องพิมพ์ของคุณมี AirPrint รวมอยู่ด้วย ให้เชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่าย Wi-Fi หรือพอร์ต LAN อีเทอร์เน็ตของคุณบนสถานีฐานของคุณเพื่อพิมพ์แบบไร้สาย
  • หลังจากเปิดเครื่องพิมพ์แล้ว ให้รอสักครู่ก่อนทดลองพิมพ์ เครื่องพิมพ์บางรุ่นอาจใช้เวลาหนึ่งหรือสองนาทีหลังจากเปิดเครื่อง ก่อนที่จะเข้าร่วมเครือข่ายของคุณ

เบราเซอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Mac ก็คือเบราเซอร์ที่มาพร้อมกับ Mac ของคุณนั่นเอง 

Safari ทำงานได้เร็วกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่าเบราเซอร์อื่นๆ ดังนั้น เว็บไซต์ต่างๆ ก็จะตอบสนองได้ดีขึ้น และแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คของคุณก็จะหมดช้าลง คุณสมบัติ
ด้านความเป็นส่วนตัวในแอพก็จะเข้มงวดกว่าที่เคย เบราเซอร์ของเราจะทำงานร่วมกับ iCloud เพื่อให้คุณสามารถท่องเว็บได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์
เครื่องไหนก็ตาม แถมยังมีวิธีดีๆ ให้คุณได้ค้นหา และแชร์สิ่งต่างๆ ที่คุณชื่นชอบ
เมื่อผสานทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน คุณก็จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ท่องเว็บ
อันสมบูรณ์แบบที่หาไม่ได้จากเบราเซอร์อื่นๆ 

ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานกว่า ประสิทธิภาพที่เร็วยิ่งขึ้น

ด้วยเอนจิ้น JavaScript ที่เร็วสุดขีด และเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน
Safari คือวิธีที่รวดเร็วและเพลิดเพลินยิ่งกว่าในการท่องเว็บ

ท่องเว็บได้นานขึ้น ดูได้มากกว่า

การท่องเว็บด้วย Safari นั้นไม่เพียงแค่เร็วเหลือเชื่อ แต่ยังประหยัดพลังงานได้มากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่า Safari
ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอันทรงพลังใน Mac ได้อย่างเต็มพิกัด โดยเว็บไซต์จะ
ตอบสนองได้รวดเร็ว ทันใจมากขึ้น และคุณก็จะสามารถท่องเว็บได้นานขึ้น 2 ชั่วโมง1 เมื่อเทียบกับการท่องเว็บ
ด้วย Chrome และ Firefox

+2 ชั่วโมง

การท่องเว็บเทียบกับ Chrome และ Firefox

รวดเร็วกว่า Chrome
และ Firefox

แล้วคุณจะพบว่าการท่องเว็บ
ด้วย Safari นั้นเร็วอย่างเหลือเชื่อ ด้วยการปรับปรุงเอนจิ้น JavaScript สุดล้ำที่ช่วยให้เว็บไซต์และเว็บ
แอพพลิเคชั่นทำงาน
ได้รวดเร็วกว่าที่เคย

JetStream: ประสิทธิภาพของ JavaScript บนเว็บแอพพลิเคชั่นขั้นสูง2

  • Safari เร็วกว่า 1.2 เท่า
  • Firefox เร็วกว่า 1.1 เท่า
  • Chrome ค่ามาตรฐาน
  • 0.5
  • 1
  • 1.5

Speedometer: การตอบสนองของเว็บแอพพลิเคชั่น3

  • Safari เร็วกว่า 1.7 เท่า
  • Chrome เร็วกว่า 1.1 เท่า
  • Firefox ค่ามาตรฐาน
  • 1
  • 2

JSBench: ประสิทธิภาพของ JavaScript บนเว็บไซต์ยอดนิยม4

  • Safari เร็วกว่า 6.6 เท่า
  • Chrome เร็วกว่า 1.1 เท่า
  • Firefox ค่ามาตรฐาน
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • 7

ปกป้องทั้งความเป็นส่วนตัว
และความปลอดภัยขณะออนไลน์

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณตั้งความหวังไว้ว่าอยากจะมี แต่เป็นสิ่งที่คุณควรต้องมีให้ได้
ซึ่งนี่คือเหตุผลที่เราใส่คุณสมบัติการรักษาความเป็นส่วนตัวและปกป้อง Mac ของคุณเอาไว้ใน Safari ด้วย
ยกตัวอย่างเช่น Safari คือเบราเซอร์เพียงหนึ่งเดียวที่ให้คุณเลือกใช้งาน DuckDuckGo เสิร์ชเอนจิ้นที่จะไม่ติดตาม
การใช้งานของคุณ

หน้าต่างท่องเว็บที่เป็นส่วนตัว

เมื่อคุณเลือก Private Browsing ท่องเว็บแบบ
เป็นส่วนตัว Safari ก็จะไม่จดจำเพจที่คุณเข้าชม ประวัติการค้นหา หรือแม้แต่ข้อมูลส่วนตัวของคุณใน AutoFill แต่ละแท็บในหน้าต่าง Private Browsing จะถูกแยกจากแท็บอื่นๆ ดังนั้น
เว็บที่คุณดูในแท็บหนึ่งจะไม่สามารถเห็นคุกกี้
ของคุณจากเว็บไซต์ในอีกแท็บหนึ่งได้ จึงป้องกัน
ไม่ให้เว็บไซต์ที่คุณล็อกอินเข้าไปติดตาม
การใช้งานของคุณขณะท่องเว็บได้

การบล็อคคุกกี้จากบริษัทอื่น

ตามปกติ เว็บเพจที่คุณเข้าไปดูบ่อยๆ มักจะทิ้งคุกกี้จากเว็บไซต์ของบริษัทไว้ ซึ่งคุกกี้เหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อติดตามว่าคุณเข้าชมเว็บไหนบ้าง หรือเลือก
ว่าจะนำเสนอโฆษณาแบบไหนกับคุณ หรือใช้ใน
การสร้างโปรไฟล์ประวัติกิจกรรมออนไลน์ของคุณ ซึ่ง Safari เป็นเบราเซอร์แรกที่ตั้งค่าเริ่มต้นให้ปิดกั้นคุกกี้เหล่านี้ โดยเบราเซอร์ของเราจะช่วยป้องกัน
ไม่ให้เว็บไซต์ต่างๆ ทิ้งข้อมูลไว้ในแคช ในพื้นที่
จัดเก็บภายในเครื่อง หรือในฐานข้อมูลของคุณตั้งแต่ค่าเริ่มต้น

ปกป้องจากเว็บไซต์อันตราย

Safari จะช่วยคุ้มครองคุณจากเว็บไซต์ที่หลอกลวงในอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์แอบแฝงอยู่ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเข้าชม โดยหากพบว่าเว็บไซต์นั้นดูน่าสงสัย Safari ก็จะป้องกันไม่ให้มีการโหลด
เว็บนั้นและแจ้งเตือนคุณทันที

การทำ Sandbox สำหรับเว็บไซต์

Sandboxing มาพร้อมระบบป้องกันโค้ดที่เป็น
อันตรายและมัลแวร์ด้วยการจำกัดความสามารถ
ในการทำงานของเว็บ และเพราะ Safari ทำงาน
บนเว็บเพจแบบแยกโปรเซส จึงทำให้โค้ดอันตราย
ที่คุณพบในหน้าหนึ่งถูกจำกัดไว้ในแท็บเบราเซอร์เพียงแท็บเดียวโดยไม่สามารถทำให้เบราเซอร์
หยุดทำงานทั้งหมด หรือเข้าถึงข้อมูลของคุณได้

ท่องเว็บได้อย่างไร้รอยต่อ
ไม่ว่าจะใช้เครื่องนี้หรือเครื่องนั้น

Safari ไม่ได้มาเฉพาะกับ Mac เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับ iPhone, iPad และ iPod touch ทุกเครื่องเช่นกัน และด้วย iCloud ที่ให้คุณสามารถอัพเดทรหัสผ่าน ที่คั่นหน้าเว็บ แท็บที่เปิดไว้ และรายการอ่าน
หรือ Reading List ให้ตรงกันได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะใช้งานเครื่องไหนก็ตาม

เจออะไรดีๆ
แล้วก็แชร์ได้เลยง่ายๆ

Safari ให้การค้นหาและการเพลิดเพลินไปกับเว็บในแบบที่ดีที่สุด
เป็นเรื่องง่าย และการแชร์เรื่องที่คุณคิดว่าน่าสนใจ
กับคนอื่นก็ทำได้ง่ายเช่นกัน

เมนู Share

คุณสามารถแชร์อะไรก็ตามที่คุณคิดว่าน่าสนใจขณะที่คุณกำลังท่องเว็บได้โดยที่ไม่ต้องออกจาก Safari
เพียงแค่คลิกปุ่ม Share แล้วเลือกว่าอยากแชร์ด้วยวิธีไหน ไม่ว่าจะแชร์โดยใช้ Mail, Messages หรือ AirDrop
จะทวีตหรือโพสต์ลง Facebook ก็ทำได้ และยังใส่คอมเมนท์และตำแหน่งที่คุณอยู่ได้อีกด้วย ลงชื่อเข้าใช้
เพียงครั้งเดียวก็สามารถตั้งค่า Facebook และ Twitter ให้พร้อมใช้งานกับ Safari ได้ทันที โดยไม่ต้องล็อกอินซ้ำ

Shared Links

Shared Links คือวิธีที่ดีที่สุดในการดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างบนเว็บ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณอยากจะอ่านอะไรใหม่ๆ แปลกๆ หรือเท่ๆ ก็เพียงแค่เปิด Shared Links ในแถบด้านข้างของ Safari ขึ้นมา คุณก็สามารถดูลิงก์ต่างๆ
จากผู้คนที่คุณติดตามบน Twitter และ LinkedIn ได้เลย และยังสามารถเลื่อนจากเรื่องหนึ่งไปยังเรื่องถัดไปได้อย่างลื่นไหลโดยไม่จำเป็นต้องคลิกเลย

Reader

อ่านข่าวและบทความอื่นในเลย์เอาท์ที่ปรับปรุงให้อ่านง่าย Reader ช่วยให้คุณมีสมาธิกับข้อความบนเพจ
ที่อ่านโดยไม่มีโฆษณาและอย่างอื่นมารบกวน

ใช้คำแนะนำเหล่านี้เพื่อถอนการติดตั้งหรือเอาซอฟต์แวร์อัดฉีดโฆษณา ที่บางครั้งเรียกว่า แอดแวร์ ออก

 

ซอฟต์แวร์อัดฉีดโฆษณาคือซอฟต์แวร์ที่รองรับการโฆษณาที่อาจมาจากไซต์การดาวน์โหลดของบริษัทอื่น ซอฟต์แวร์ที่คุณดาวน์โหลดจากไซต์ดังกล่าวอาจถูกกำหนดให้ติดตั้งทั้งซอฟต์แวร์ที่คุณต้องการและซอฟต์แวร์อัดฉีดโฆษณา ถ้า Mac ของคุณเพิ่งติดตั้งซอฟต์แวร์อัดฉีดโฆษณา คุณอาจเห็นหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น โฆษณา และกราฟิกต่างๆ ในขณะท่องเว็บอยู่ แม้ว่าจะเลือก "กั้นหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น" ไว้ในการตั้งค่า Safari ก็ตาม ซอฟต์แวร์อัดฉีดโฆษณายังอาจเปลี่ยนโฮมเพจของคุณและเครื่องมือค้นหาที่คุณเลือกอีกด้วย

ตรวจสอบการตั้งค่าและส่วนขยาย Safari

ไปที่ Safari > การตั้งค่า แล้วทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

  1. คลิกไอคอน ทั่วไป แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่อง โฮมเพจ มีเว็บไซต์ที่คุณต้องการ
  2. คลิกไอคอน ค้นหา แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเครื่องมือค้นหาแสดงเครื่องมือค้นหาที่คุณเลือก Safari บางเวอร์ชั่นจะใส่การตั้งค่านี้ไว้ในบานหน้าต่าง ทั่วไป แทน
  3. คลิกไอคอน ส่วนขยาย หากคุณไม่ต้องการส่วนขยายหรือไม่ทราบว่ามีหน้าที่ทำอะไร ให้เลือกส่วนขยายจากรายการ แล้วคลิก ถอนการติดตั้ง นี่คือตัวอย่างส่วนขยายการอัดฉีดโฆษณา แต่ยังมีรายการอื่นๆ อีก:
    • Amazon Shopping Assistant by Spigot Inc.
    • Ebay Shopping Assistant by Spigot Inc.
    • Searchme by Spigot, Inc.
    • Slick Savings by Spigot Inc.
    • GoPhoto.It
    • Omnibar

เอาซอฟต์แวร์อัดฉีดโฆษณาบางตัวออก

ใช้วิธี "ไปที่โฟลเดอร์" เพื่อค้นหาและเอาแต่ละรายการที่ลงรายการไว้ในส่วนด้านล่างนี้ออกทีละหนึ่งรายการ:

  1. ลากเพื่อเลือกทั้งบรรทัดในรายการด้านล่างนี้ โดยเริ่มจาก /System/Library/Frameworks/v.frameworkตัวอย่างเช่น
  2. เลือก แก้ไข > คัดลอก
  3. เปิดหน้าต่าง Finder แล้วเลือก มุมมอง > เป็นคอลัมน์
  4. เลือก ไป > ไปที่โฟลเดอร์
  5. เลือก แก้ไข > วาง เพื่อวางบรรทัดที่คุณคัดลอกลงในช่องข้อความ
  6. กด Return
    • หากรายการอยู่บน Mac ของคุณ หน้าต่างจะเปิดขึ้นโดนเลือกรายการที่คุณค้นหาไว้ให้แล้ว ลากเฉพาะรายการนั้นไปที่ ถังขยะ หากคุณถูกขอให้ป้อนรหัสผ่าน ให้ป้อนรหัสผ่านผู้ดูแลระบบของคุณ
    • หากรายการไม่ได้อยู่บน Mac ของคุณ คุณจะเห็นข้อความว่าไม่พบโฟลเดอร์ ให้ดำเนินการต่อกับรายการถัดไปที่อยู่ในรายการ

เอา Downlite, VSearch, Conduit, Trovi, MyBrand และ Search Protect ออก

ใช้ ไปที่โฟลเดอร์ เพื่อค้นหาและเอาแต่ละรายการเหล่านี้ออก:

/System/Library/Frameworks/v.framework

/System/Library/Frameworks/VSearch.framework

/Library/PrivilegedHelperTools/Jack

/Library/InputManagers/CTLoader/

/Library/Application Support/Conduit/

~/Library/Internet Plug-Ins/ConduitNPAPIPlugin.plugin

~/Library/Internet Plug-Ins/TroviNPAPIPlugin.plugin

/Applications/SearchProtect.app

หลังจากคุณเอารายการด้านบนออกแล้ว ให้เริ่มการทำงาน Mac ของคุณใหม่ จากนั้นเลือก Finder > ล้างถังขยะ เพื่อเอารายการออกเป็นการถาวร

เอา Genieo หรือ InstallMac ออก

ก่อนอื่นให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อหยุดกระบวนการ Genieo หรือ InstallMac หากกำลังทำงานอยู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เริ่มการทำงาน Mac ของคุณใหม่เมื่อได้รับคำแนะนำ

  1. เปิด ตัวตรวจสอบกิจกรรม
    คุณสามารถใช้ Spotlight (Command-Space) เพื่อค้นหา "ตัวตรวจสอบกิจกรรม" จากนั้นเลือก ตัวตรวจสอบกิจกรรม จากผลการค้นหา
  2. ในหน้าต่าง ตัวตรวจสอบกิจกรรม คลิกแท็บ CPU จากนั้นคลิก ชื่อกระบวนการ ที่ด้านบนของคอลัมน์นั้นเพื่อจัดเรียงรายการตามลำดับตัวอักษร
  3. มองหากระบวนการ "Genieo" เลือก แล้วคลิกปุ่ม บังคับออก (x) ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง
  4. มองหากระบวนการ "InstallMac" เลือกกระบวนการนั้น แล้วคลิกปุ่ม บังคับออก
  5. ออกจากตัวตรวจสอบกิจกรรม
  6. ใช้ ไปที่โฟลเดอร์ เพื่อค้นหาและเอาออก /private/etc/launchd.conf.

เริ่มการทำงาน Mac ของคุณใหม่

ใช้ ไปที่โฟลเดอร์ เพื่อค้นหาและเอาแต่ละรายการเหล่านี้ออก:

/Applications/Genieo

/Applications/InstallMac

/Applications/Uninstall Genieo

/Applications/Uninstall IM Completer.app

/usr/lib/libgenkit.dylib

/usr/lib/libgenkitsa.dylib

/usr/lib/libimckit.dylib

/usr/lib/libimckitsa.dylib

/Library/PrivilegedHelperTools/com.genieoinnovation.macextension.client

~/Library/Application Support/Genieo/

~/Library/Application Support/com.genieoinnovation.Installer/

เริ่มการทำงาน Mac ของคุณใหม่

จากนั้นจึงค้นหาและเอาออก /Library/Frameworks/GenieoExtra.framework.

เริ่มการทำงาน Mac ของคุณใหม่

เลือก Finder > ล้างถังขยะ เพื่อเอาไฟล์ออกเป็นการถาวร

(ไม่บังคับ) เอาไฟล์แอดแวร์อื่นๆ ออก

คุณไม่จำเป็นต้องเอาไฟล์เหล่านี้ออกเพื่อปิดใช้งานแอดแวร์ หากคุณได้เอาไฟล์ออก ให้เอาไฟล์อื่นๆ ที่ลงรายการไว้ในส่วนด้านบนออกก่อน ใช้วิธีเดิมคือ ไปที่โฟลเดอร์ เพื่อค้นหาและเอาแต่ละรายการออก

/Library/LaunchAgents/com.genieo.completer.update.plist

/Library/LaunchAgents/com.genieo.engine.plist

/Library/LaunchAgents/com.genieoinnovation.macextension.client.plist

/Library/LaunchAgents/com.genieoinnovation.macextension.plist

/Library/LaunchDaemons/com.genieoinnovation.macextension.client.plist

/Library/LaunchDaemons/Jack.plist

~/Conduit/

~/Trovi/

~/Library/Caches/com.Conduit.takeOverSearchAssetsMac

~/Library/Caches/com.VSearch.bulk.installer

~/Library/Caches/com.VSearch.VSinstaller

~/Library/LaunchAgents/com.genieo.completer.download.plist

~/Library/LaunchAgents/com.genieo.completer.ltvbit.plist

~/Library/LaunchAgents/com.genieo.completer.update.plist

~/Library/Preferences/com.genieo.global.settings.plist.lockfile

~/Library/Preferences/com.geneio.settings.plist.lockfile

~/Library/Preferences/com.geneio.global.settings.plist

~/Library/Saved Application State/com.genieo.RemoveGenieoMac.savedState

~/Library/Saved Application State/com.VSearch.bulk.installer.savedstate

ไปยัง /Library/LaunchAgents/ โฟลเดอร์และค้นหาไฟล์ที่ชื่อ com.*.agent.plist. เครื่องหมายดอกจัน (*) อาจเป็นคำใดก็ได้ ซึ่งรวมถึง "Apple" ด้วย ตัวอย่าง: com.midnight.agent.plist. ย้ายไฟล์ไปที่ถังขยะ

ไปยัง /Library/LaunchDaemons/ โฟลเดอร์และมองหาไฟล์ที่ชื่อ com.*.daemon.plist และไฟล์ที่ชื่อ com.*.helper.plist. เครื่องหมายดอกจัน (*) อาจเป็นคำใดก็ได้ แต่จะเป็นคำเดียวกันที่ใช้ในโฟลเดอร์ LaunchAgents ด้านบน ตัวอย่าง: com.midnight.daemon.plist และ com.midnight.helper.plist. ย้ายไฟล์ไปที่ถังขยะ

ไปยัง /Library/Application Support/ โฟลเดอร์และมองหาชื่อไฟล์ที่เป็นคำเดียวที่ใช้ในโฟลเดอร์ LaunchAgents และ LaunchDaemons ด้านบน ตัวอย่าง: midnight. ย้ายไฟล์ไปที่ถังขยะ

เริ่มการทำงาน Mac ของคุณใหม่ จากนั้นเลือก Finder > ล้างถังขยะ เพื่อเอารายการออกเป็นการถาวร

Mac ของคุณมาพร้อมกับแอปมากมายติดตั้งไว้แล้วที่ให้ความสนุกสนานและมีประโยชน์ คุณสามารถเปิดแอปบางแอปได้จาก Dock ในการดูและเปิดแอปทั้งหมด ให้คลิกที่ไอคอน Launchpad

 
ไอคอน Launchpad ใน Dock

แอปยอดนิยม

ตามค่าเริ่มต้น แอปเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในโฟลเดอร์ใด ๆ ใน Launchpad สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Launchpad ให้ดู Uygulamaları görüntülemek ve açmak için Launchpad'i kullanma

คุณยังสามารถดูและเปิดแอปเหล่านี้ได้ในโฟลเดอร์แอปพลิเคชั่นใน Finder

ไอคอน Safari

Safari

ทุกอย่างที่คุณคาดหวังในเว็บเบราว์เซอร์ รวมถึงรายการการอ่านแบบออฟไลน์ ลิงก์ที่แชร์จากการเชื่อมต่อทางสังคมของคุณ เติมรหัสผ่านและบัตรเครดิตอัตโนมัติ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ไอคอนเมล

เมล

ส่ง รับ และจัดการอีเมลโดยใช้บัญชีอินเทอร์เน็ตที่ชื่นชอบของคุณ เช่น iCloud, Google, Yahoo! และ Exchange ได้โดยตรงในแอปเมล

ไอคอนรายชื่อ

รายชื่อ

เก็บข้อมูล เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ วันเกิด และอื่น ๆ สำหรับเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของคุณ

ไอคอนปฏิทิน

ปฏิทิน

ติดตามทุกการประชุม กิจกรรม และการนัดหมายของคุณไว้ในที่เดียว

ไอคอนเตือนความจำ

เตือนความจำ

สร้างรายการแยกเป็นสิ่งที่ต้องทำ โปรเจ็กต์ ของชำ และอื่น ๆ ที่คุณต้องการเก็บรายละเอียด

ไอคอนโน้ต

โน้ต

จดสิ่งที่คุณจะจำหรือเตรียมรูปภาพและไฟล์ให้พร้อมใช้

ไอคอนแผนที่

แผนที่

รับเส้นทางเพื่อไปหรือออกจากตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งรวมถึงสภาพการจราจรปัจจุบัน และส่งเส้นทางไปยังอุปกรณ์ iOS ของคุณได้อย่างรวดเร็ว

ไอคอนข้อความ

แอปข้อความ

ติดต่อกับเพื่อนของคุณอยู่เสมอโดยส่งข้อความด้วยตัวอักษร รูปภาพ และไฟล์อื่น ๆ

ไอคอน FaceTime

FaceTime

โทรผ่านจอภาพและโทรด้วยเสียงกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ของคุณ ไม่ว่าพวกเขาจะใช้ iPhone, iPad, iPod touch หรือ Mac อยู่ก็ตาม

ไอคอน Photo Booth

Photo Booth

ถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอที่สนุกสนานโดยใช้กล้องในตัวของคอมพิวเตอร์คุณหรือกล้องวิดีโอภายนอกที่เชื่อมต่อกับ Mac ของคุณ

ไอคอน Game Center

Game Center

ค้นหาเกมใหม่ๆ สำหรับ Mac และอุปกรณ์ iOS ของคุณ ดูเกมที่เพื่อนของคุณกำลังเล่นและท้าทายเพื่อนไปยังเกมนั้น ๆ

ไอคอน iTunes

iTunes

จัดระเบียบและเล่นเพลงและวิดีโอของคุณ ค้นหาเพลง ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ พ็อดคาสท์ และอื่น ๆ แล้วตั้งค่า iPad, iPhone หรือ iPod ของคุณ

ไอคอน iBooks

iBooks

ค้นพบหนังสือขายดี โต้ตอบกับหนังสือของคุณ ค้นหาหนังสือโปรดเล่มใหม่ หรืออ่านหนังสือโปรดเล่มเก่าอีกครั้ง

ไอคอน App Store

App Store

ค้นหา ซื้อ ติดตั้ง อัปเดต และวิจารณ์แอปต่าง ๆ ของ Mac

ไอคอนการแสดงตัวอย่าง

การแสดงตัวอย่าง

ดูและแก้ไขไฟล์ PDF และรูปภาพ นำเข้ารูปภาพจากกล้อง แล้วถ่ายภาพหน้าจอของคุณ

ไอคอนพจนานุกรม

พจนานุกรม

ค้นหาคำศัพท์ในพจนานุกรม พจนานุกรมคำพ้อง และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว ขณะทำงานในแอปหรือเลือกดูหน้าเว็บ

ไอคอนเครื่องคิดเลข

เครื่องคิดเลข

คำนวณแบบพื้นฐาน แบบขั้นสูง หรือสำหรับโปรแกรมเมอร์

ไอคอน iPhoto

iPhoto

นำเข้า จัดระเบียบ แก้ไข และแชร์รูปภาพของคุณ

ไอคอน iMovie

iMovie

นำเข้า แก้ไข และแชร์ภาพยนตร์เริ่มต้นของคุณ

ไอคอน GarageBand

GarageBand

สตูดิโอเพลงเต็มรูปแบบบน Mac ของคุณ เพื่อให้คุณสามารถสร้างเพลงของคุณเองเพื่อแชร์กับคนทั่วโลก

ไอคอน Keynote

Keynote

สร้างงานนำเสนอที่สวยงามด้วยรูปภาพ สื่อ แผนภูมิ ภาพเคลื่อนไหว และอื่น ๆ

ไอคอน Numbers

Numbers

สร้างสเปรดชีตที่สวยงามและกระตุ้นความสนใจโดยใส่สูตร ฟังก์ชั่น แผนภูมิ และอื่น ๆ

ไอคอน Pages

Pages

สร้างเอกสารที่สวยงามด้วยตัวอักษร รูปภาพ สื่อ ตาราง และอื่น ๆ ที่จัดรูปแบบ

แอปอื่น ๆ ทั้งหมด

ตามค่าเริ่มต้น แอปเหล่านี้จะแสดงในโฟลเดอร์อื่นใน Launchpad แอปเหล่านี้จะแสดงในโฟลเดอร์ยูทิลิตี้ ในโฟลเดอร์แอปพลิเคชั่นใน Finder

ไอคอนตัวตรวจสอบกิจกรรม

ตัวตรวจสอบกิจกรรม

แสดงข้อมูลเกี่ยวกับตัวประมวลผล แอป ดิสก์ หน่วยความจำ และกิจกรรมในเครือข่ายใน Mac ของคุณ

ไอคอนยูทิลิตี้ AirPort

ยูทิลิตี้ AirPort

ตั้งค่าและจัดการเครือข่าย Wi-Fi และสถานีฐาน AirPort

ไอคอนการตั้งค่าเสียง MIDI

การตั้งค่าเสียง MIDI

ตั้งค่าเสียงและอุปกรณ์ MIDI ที่เชื่อมต่อกับ Mac ของคุณ เลือกอุปกรณ์สัญญาณเข้าและออกของช่องสัญญาณเสียง กำหนดลำโพงขาออก และอื่น ๆ

ไอคอน Automator

Automator

สร้างการทำงานอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพโดยปราศจากความต้องการของภาษาโปรแกรมหรือสคริปต์

ไอคอนผู้ช่วย Boot Camp

ผู้ช่วย Boot Camp

ใช้ Windows 7 หรือ 8 หรือ OS X บน Mac ของคุณ

ไอคอนการแลกเปลี่ยนไฟล์ผ่านบลูทูธ

การแลกเปลี่ยนไฟล์ผ่านบลูทูธ

ทำการเชื่อมต่อไร้สายระยะใกล้ระหว่างอุปกรณ์ ช่วยขจัดความจำเป็นในการใช้สายหลายอย่าง

ไอคอนหมากรุก

หมากรุก

เล่นหมากรุกกับ Mac ของคุณ

ไอคอนยูทิลิตี้ ColorSync

ยูทิลิตี้ ColorSync

ปรับค่าโปรไฟล์สีในคอมพิวเตอร์ของคุณ

ไอคอนจอคอนโซล

จอคอนโซล

ดูบันทึกข้อความในจอคอนโซล ที่คุณสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Mac ของคุณ

ไอคอนมิเตอร์สีดิจิตอล

มิเตอร์สีดิจิตอล

ค้นหาค่าสีใด ๆ บนจอแสดงผลของคุณ

ไอคอนยูทิลิตี้ดิสก์

ยูทิลิตี้ดิสก์

จัดการดิสก์ ภาพดิสก์ และชุด RAID

ไอคอนเครื่องเล่น DVD

เครื่องเล่น DVD

เล่น DVD หรือ ไฟล์ภาพยนตร์ DVD บน Mac ของคุณ

ไอคอนสมุดแบบอักษร

สมุดแบบอักษร

ติดตั้ง จัดการ และแสดงตัวอย่างแบบอักษร

ไอคอนเก็บภาพ

เก็บภาพ

ถ่ายรูปภาพ หรือสกรีนช็อต ของทุกส่วนหรือบางส่วนของหน้าจอของคุณ

ไอคอน Grapher

Grapher

แสดงภาพและวิเคราะห์สมการแบบโดยปริยายและโดยชัดแจ้ง

ไอคอนตัวจับภาพ

ตัวจับภาพ

ถ่ายโอนและสแกนรูปภาพ หรือถ่ายภาพ

ไอคอนหมึก

หมึก

เพิ่มภาพร่างและข้อความที่เขียนด้วยลายมือลงในที่ใดก็ได้ที่คุณสามารถป้อนข้อความ เช่น ในเอกสาร เมื่อคุณเชื่อมต่อแท็บเล็ตกราฟิกเข้ากับ Mac ของคุณ การตั้งค่าหมึก จะปรากฏในการตั้งค่าระบบ

ไอคอนการเข้าถึงพวงกุญแจ

การเข้าถึงพวงกุญแจ

จัดเก็บรหัสผ่านและข้อมูลบัญชีของคุณ และลดจำนวนของรหัสผ่านที่คุณต้องจดจำและจัดการ

ไอคอนผู้ช่วยการโยกย้าย

ผู้ช่วยการโยกย้าย

ถ่ายโอนข้อมูลของคุณจากเครื่อง Mac พีซี หรือดิสก์

ไอคอนเครื่องเล่น QuickTime

QuickTime Player

เล่นไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียง

ไอคอนหน้าต่างแก้ไขสคริปต์

หน้าต่างแก้ไขสคริปต์

สร้างสคริปต์ เครื่องมือ และแม้แต่แอปที่มีพลัง

ไอคอนโน้ตแปะ

โน้ตแปะ

เก็บโน้ต รายการ และรูปภาพในบันทึกย่อช่วยเตือนบนเดสก์ท็อปของคุณ

ไอคอนข้อมูลระบบ

ข้อมูลระบบ

รับรายละเอียดเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ เครือข่าย และข้อมูลจำเพาะซอฟต์แวร์ของ Mac ของคุณ

ไอคอนเทอร์มินัล

เทอร์มินัล

จุดเข้าใช้งานระบบปฏิบัติการ UNIX ทั้งหมดใน OS X ของคุณ

ไอคอน TextEdit

TextEdit

สร้างและแก้ไขข้อความธรรมดา ข้อความเข้ารหัสแอสกี HTML และเอกสารประเภทอื่น ๆ

ไอคอนยูทิลิตี้ VoiceOver

ยูทิลิตี้ VoiceOver

ปรับแต่ง VoiceOver ตัวอ่านหน้าจอแบบคุณสมบัติเต็มที่ติดตั้งใน OS X

ในการซื้อหรือดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม ให้เข้าชม Mac App Store

เมื่อคุณไม่สามารถเปิดเครื่อง iMac ได้ (iMac Intel-CPU)

     คุณสามารถตรวจเช็คเบื้องต้นก่อนได้ด้วยตนเอง  เปิดเครื่องแล้วไม่ติด  ไม่ขึ้นภาพ  ไม่มีแสงที่หน้าจอ  วิธีการเบื้องต้นที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่าเครื่องเสียหรือไม่  ดังนี้

1. ตรวจสอบเต้าเสียบว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่  หากให้มั่นใจได้ว่าเต้ารับสามารถใช้งานได้จริง  ควรย้ายไปเสียบปลั๊กไฟที่ผนังห้องเพื่อความชัวร์

2. เปลี่ยนสายไฟที่เสียบต่อจากเต้ารับมายังเครื่อง iMac ของท่าน  หากมั่นใจว่าสายไฟใช้ได้ชัวร์  ไปขั้นตอนต่อไป

3. ถอดอุปกรณ์ต่อพ่วง  เช่น ปริ๊นเตอร์ สาย USB ต่างๆ  ให้หมด

4. กดปุ่ม Power ค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อย  แล้วกดปุ่ม Power เพื่อเปิดเครื่องอีกครั้งดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง  หากยังไม่สามารถเปิดเครื่องได้

5. Reset SMC

6. ถอดสายไฟจากนั้นถอดแรมออกจากเครื่องแล้วเสียบปลั๋กกลับเข้าไปอีกครั้ง  กดปุ่มเปิดเครื่องอีกครั้ง  หากไม่มีเสียงดัง ติ๊ดๆๆ แสดงว่า

  • ไฟไม่เข้าเครื่อง
  • Power Supply เสีย
  • MainBoard เสีย

จากขั้นตอนที่แนะนำมาทั้งหมดนี้แล้ว  เป็นการตรวจเช็คเบื้องต้นก่อนนำเครื่องเข้ารับบริการตรวจเช็คซ่อมแซมต่อไป  สาเหตุส่วนใหญ่อาจเกิดมาจากหัวเสียบกับเต้ารับไฟฟ้า  ไม่สัมผัสกัน  เลยทำให้ไม่สามารถเปิดเครื่องได้  ให้คุณลองหาสายไฟเส้นใหม่มาลองเสียบดูก่อนเพื่อตรวจเช็คให้มั่นใจได้ว่า  ไม่ได้เกิดจากการที่สายไฟไม่สามารถนำไฟเข้าตัวเครื่องได้

 

 

iMac เปิดไม่ติด ตรวจเช็คเบื้องต้น

 

แล้วมีวิธีการดูแลให้เครื่อง iMac ใช้งานได้นานๆ ควรทำอย่างไร ชมได้จากคลิปด้านล่างนี้ครับ มีคำตอบ

 

หากคุณมีคลังรูปภาพจำนวนมากบน Mac คุณสามารถเลือกหนึ่งคลังให้เป็น คลังรูปภาพของระบบ แอพต่างๆ เช่น iMovie, Pages และ Keynote สามารถใช้ภาพใน คลังรูปภาพของระบบ ได้

 

คลังรูปภาพของระบบ เป็นชุดรวมเริ่มต้นของภาพที่แอพอื่นๆ บน Mac ของคุณสามารถใช้ได้ หากคุณมีคลังรูปภาพเพียงหนึ่งคลัง คลังนั้นก็จะเป็น คลังรูปภาพของระบบ มิฉะนั้น คลังรูปภาพแรกที่คุณสร้างหรือเปิดใน รูปภาพ จะกลายเป็น คลังรูปภาพของระบบ หากคุณมีมากกว่าหนึ่งคลัง คุณอาจจำเป็นต้องกำหนด คลังรูปภาพของระบบ เพื่อให้แอพอื่นๆ สามารถเข้าถึงรูปภาพและวิดีโอที่คุณต้องการให้แอพนั้นใช้งาน 

ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อกำหนด คลังรูปภาพของระบบ

  1. ออกจากรูปภาพ
  2. กดป่ม ตัวเลือก ค้างไว้แล้วเปิด รูปภาพ คลังรูปภาพหนึ่งได้ถูกกำหนดเป็นให้ YourLibraryName (คลังรูปภาพของระบบ) ไว้แล้ว
  3. เลือกคลังที่คุณต้องการกำหนดให้เป็น คลังรูปภาพของระบบ
  4. หลังจากที่ รูปภาพ เปิดคลังขึ้นมา ให้เลือก รูปภาพ> การตั้งค่า จากแถบเมนู
  5. คลิกแท็บ ทั่วไป
  6. คลิกปุ่ม ใช้เป็นคลังรูปภาพของระบบ

การตั้งค่ารูปภาพ

ถ้าคุณเปิดคลังที่สองหรือคลังอื่นในแอพ รูปภาพ และคุณยังไม่ได้กำหนดให้เป็น คลังรูปภาพของระบบ แอพพลิเคชั่นอื่นๆ จะใช้รูปภาพจาก คลังรูปภาพของระบบ เดิม กดปุ่ม ตัวเลือก ค้างไว้เมื่อคุณเปิด รูปภาพ เพื่อดูว่าคลังใดที่ถูกกำหนดให้เป็น คลังรูปภาพของระบบ

iCloud และคลังรูปภาพของระบบ

คุณสามารถใช้ คลังรูปภาพ iCloud การแชร์รูปภาพ iCloud และ การสตรีมรูปภาพของฉัน กับ คลังรูปภาพของระบบ เท่านั้น หากคุณเลือกคลังอื่นใน รูปภาพ โดยไม่ได้กำหนดให้เป็น คลังรูปภาพของระบบ แท็บ iCloud ใน การตั้งค่ารูปภาพ ก็จะถูกปิดใช้งาน

การตั้งค่า iCloud ใน รูปภาพ

ถ้าคุณกำหนดคลังใหม่ให้เป็น คลังรูปภาพของระบบ แล้วเปิด คลังรูปภาพ iCloud รูปภาพและวิดีโอที่อยู่ในคลังใหม่จะรวมกับรูปภาพและวิดีโอที่อยู่ในคลังรูปภาพ iCloud ของคุณอยู่แล้ว หากคุณต้องการเก็บเนื้อหาของคลังรูปภาพไว้แยกต่างหาก อย่าเปิด คลังรูปภาพ iCloud มากกว่าหนึ่งคลังใน รูปภาพ

 

ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้หากแอปเมลใน OS X หยุดส่งหรือรับอีเมลอย่างกระทันหัน

 

หาก Mac ของคุณ เชื่อมต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ต แต่เมลกลับไม่ส่งหรือรับข้อความอีเมลใดๆ อีกต่อไป แสดงว่าปัญหาอาจเกิดขึ้นจากผู้ให้บริการอีเมลของคุณ หรือการตั้งค่าบัญชีอีเมลของคุณอาจล้าสมัยแล้ว

หากเมลกล่าวถึงปัญหาเซิร์ฟเวอร์เมลหรือเครือข่าย

เมลอาจแจ้งว่าแอปไม่สามารถเชื่อมต่อได้เนื่องจากเกิดปัญหากับเซิร์ฟเวอร์เมลหรือเครือข่าย ตัวอย่างเช่น ข้อความอาจกล่าวถึงการเชื่อมต่อที่หมดเวลาหรือมีการเชื่อมต่อพร้อมกันเป็นจำนวนที่มากเกินไป:

ไม่สามารถเชื่อมต่อการเตือนได้

หากคุณเชื่อมต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ตแต่การเชื่อมต่อหมดเวลา แสดงว่าผู้ให้บริการอีเมลของคุณอาจประสบปัญหาสัญญาณขาดหาย กรุณาติดต่อผู้ให้บริการหรือตรวจสอบเว็บเพจสถานะเพื่อให้แน่ใจว่าบริการเมลของพวกเขากำลังออนไลน์อยู่ ตัวอย่างหน้าสถานะ:

หากข้อความกล่าวถึงจำนวนการเชื่อมต่อพร้อมกันแสดงว่ามีอุปกรณ์ที่กำลังเชื่อมต่อกับบัญชีอีเมลของคุณพร้อมๆ กันเป็นจำนวนมากเกินไป ออกจากเมลในอุปกรณ์หนึ่งเครื่องขึ้นไป

หากเมลแจ้งว่าบัญชีของคุณกำลังออฟไลน์อยู่

เมลอาจแจ้งว่าบัญชีของคุณกำลังออฟไลน์อยู่เนื่องจากเกิดปัญหาเครือข่าย

 การเตือนสถานะออนไลน์

หากคุณกำลัง เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต แต่บัญชีของคุณกลับออฟไลน์อยู่ การตั้งค่าอีเมลของคุณอาจไม่ถูกต้องอีกต่อไป หากต้องการดูการตั้งค่าปัจจุบันของคุณในเมล ให้เลือกเมนู การตั้งค่า คลิก บัญชี จากนั้นเลือกบัญชีอีเมลของคุณ

OS X ใช้ การตั้งค่าบัญชี ที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติสำหรับผู้ให้บริการอีเมลหลายราย คุณสามารถใช้ การค้นหาการตั้งค่าเมล เพื่อดูการตั้งค่าเหล่านั้น หรือ รับการตั้งค่าจากผู้ให้บริการอีเมลของคุณโดยตรง จากนั้นเปรียบเทียบกับการตั้งค่าที่คุณเห็นในการตั้งค่าเมล 

หากเมลขอให้คุณกรอกรหัสผ่านอีเมลซ้ำแล้วซ้ำอีก

เรียนรู้ว่าต้องทำอย่างไร หากเมลขอรหัสผ่านของบัญชีอีเมลของคุณซ้ำแล้วซ้ำอีก

หากคุณยังไม่สามารถส่งหรือรับอีเมลได้

ตัวรักษาการเชื่อมต่อของเมล อาจสามารถบอกให้คุณทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาได้

ค้นหา

บทความที่เกี่ยวข้อง

Free Joomla templates by L.THEME